Modest Heroes Trailer สวัสดีค่า กลับมาเจอกันกับการรีวิวอนิเมะสุดหรรษาที่ทุกคนรอคอย อย่างที่ทราบกันดีว่าอนิเมะสร้างออกมาเพื่อความบันเทิงใจเสริมสร้างจินตนาการให้เหล่าผู้ชมมาแล้วไม่ถ้วน วันนี้ทางผู้เขียนอยากมาแนะนำอนิเมะอีกเรื่อง ซึ่งผู้เขียนค่อนข้างประทับเลยทีเดียวกับเรื่องฮีโร่เดินดิน ของค่าย STUDIO PONOC โดย Netflix เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟสัญชาติญี่ปุ่นสำหรับครอบครัว ในเรื่องนี้จะรวมอนิเมะสั้นๆ ไว้สามเรื่อง ถ่ายทอดความเป็นฮีโร่ในแบบฉบับของตัวเอง โดยทุกคนก็สามารถเป็นฮีโร่ได้ ไม่จำเป็นต้องไปช่วยเหลือคนทั้งประเทศเหมือนซุปเปอร์แมนหรือแบตแมนตามหนังที่เราดูทั่วไป เอาล่ะ เดี่ยวมารีวิวในแต่เรื่องให้ทุกคนได้อ่านกัน พร้อมจะเป็นฮีโร่กันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว ตามกันมาเลยค่า
โดยเรื่องฮีโร่เดินดินนี้ จะแบ่งเป็นเรื่องราวหลัก 3 เรื่องใหญ่ ๆ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
1.Kanini & Kanino กำกับโดย ฮิโรมาสะ โยเนบายาชิ Modest Heroes Trailer
Modest Heroes Trailer เรื่องราวของ คานินิ กับ คานิโน สองพี่น้องตัวน้อยแห่งจ้าวสมุทร เมื่อวันหนึ่งพ่อของเขาหายตัวไป สองพี่น้องจึงต้องออกตามหา นี่เป็นเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหญ่ที่เด็กน้อยสองคนผู้แทบจะไม่รู้จักโลก ต้องออกมาผจญภัยอันตรายต่าง ๆ เพื่อตามหาพ่อของตัวเอง การเป็นฮีโร่ในเรื่องนี้ จึงไม่ใช่การไปกอบกู้โลกแต่อย่างใด แต่เป็นการที่พี่ชายยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคตรงหน้า แม้จะใหญ่ยักษ์กว่าตนแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะเขาต้องการที่จะปกป้องน้องสาวตัวเอง รวมทั้งช่วยเหลือพ่อของเขาในยามลำบากที่ตอนนี้ไม่อาจลุกขึ้นมาปกป้องลูก ๆ ตัวเองได้
เป็นอนิเมชั่นที่มีระดับความแมสอยู่มาก ดูง่าย สื่อสารนัยอย่างตรงไปตรงมา และเสนอมุมมองภาพความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติให้เราได้เห็นจนรู้สึกขนลุกขนพอง ด้วยเทคนิค 2.5D งานภาพในเรื่องนี้จึงออกมาเตะตาและน่าสนใจเอามาก ๆ อีกทั้ง เรื่องนี้ตัวละครใช้ภาษาแปลงขึ้นมาเอง บทพูดในเรื่องจึงไม่สำคัญ แต่เป็นการกระทำที่แสดงออกมาให้เราได้เห็นชัดถนัดตา ความรักของพ่อแม่ ความอบอุ่นของครอบครัว และความหมายของการเป็นฮีโร่ ที่ไม่จำต้องทำสิ่งที่ใหญ่โตอะไร นอกจาก ปกป้องคนที่เรารัก
เรื่องแรกจะกล่าวถึงความกล้าหาญของสองพี่น้องที่เป็นเหมือนภูติเล็ก ๆ อาศัยอยู่กับครอบครัวในน้ำ ไปช่วยพ่อจากปลายักษ์ รวมถึงการเอาชีวิตรอดของสองพี่น้องคู่นี้ โดยสาระของเรื่องจะบ่งบอกถึงแค่เรามีความกล้าหาญจะทำอะไรซักอย่าง ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ แม้กระทั้งยืนอยู่ด้วยขาตัวเองก็ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป บอกเลยว่าภาพสวยมาก เนื้อหาน่ารักตามแนวแฟนตาซี รวม ๆ แล้วถือว่าเวิร์กเลย
2.Life Ain’t Gonna Lose กำกับโดย โยชิยูกิ โมโมเสะ
เรื่องราวของ ชุน เด็กชายที่เกิดมาพร้อมกับอาการแพ้ไข่ อย่างรุนแรง หากได้ทานอะไรก็ตามที่มีส่วนผสมของไข่ ผื่นจะขึ้นตามตัว ปวดท้อง วิงเวียนถึงขั้นเขาโรงพยาบาล แม่ของเขาจึงทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ลูกตัวเองรอดปลอดภัยไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
เรื่องนี้นำเสนอมุมมองของการเป็นฮีโร่อีกแบบหนึ่ง เมื่อฮีโร่ ไม่จำเป็นจำต้องเป็นผู้พิทักษ์โลก หรือจักรวาลแบบใน Marvel หรือ DC เสมอไป หรือแม้กระทั่งไม่จำต้องเสนอภาพของเด็กหนุ่มที่ยืนหยัดจะต่อกรกับอำนาจที่ใหญ่กว่าตนเพื่อปกป้องคนรักของตัวเอง แต่เป็นการเสนอ การต่อสู้กับภัยร้ายในตัวเอง กล่าวคือ การที่เด็กน้อยคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับโรคร้าย เขาต้องต่อสู้กับโรคนั้นด้วยตัวเอง โดยมีครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อนที่น่ารักคอยอยู่ข้าง ๆ ผลักดันให้เขาไปต่อได้ แต่คนที่จะสามารถสู้กับภัยร้ายในตัวเองได้ ก็มีแต่ตัวเขาเองเท่านั้น ชุนที่เกิดมาพร้อมกับอาการแพ้ไข่นี้เอง เขาจึงเกลียดไข่เอามาก ๆ แม้แต่กระดาษข้อสอบเขายังเลือกที่จะไม่ตอบคำถามที่มีคำว่า “ไข่” อยู่ด้วยเลย แต่เมื่อวันหนึ่งเขาเลิกที่จะตัดพ้อกับเรื่องพรรค์นั้นแล้วหันมาสู้กับมันซึ่ง ๆ หน้า เขาจึงเปลี่ยนจากการที่จะขว้างไข่ทิ้ง กลายเป็นซามูไรที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับชุน จนกว่าวันนั้น วันที่ซามูไรไข่ จะถอนตัวแล้วหายไปจาก “โรคใบนี้” นอกจากนี้ตัวอนิเมชั่นก็ได้นำเสนอภาพจำของการเป็นแม่ ต้องทำอย่างไร ดูจบก็ชวนขบคิดถึงวันหนึ่ง หรือวันนี้ ที่ได้เป็นพ่อแม่คน เราต้องดูแลลูก แบบไหน ถึงจะควรที่สุด
เรื่องที่สองจะเพิ่มความดราม่าเข้าไปนิดนึงเพราะเป็นฝีมือผู้สร้าง spirited sway กับ grave of the fireflies (สุสานหิ่งห้อย) มาร่วมสร้างสีสันด้วย จะบอกเล่าถึงเด็กผู้ชายที่แพ้ไข่อย่างรุนแรงกล้าที่จะต่อสู้กับภูมิแพ้อาหารอย่างรุนแรง เรื่องนี้จะมองเห็นความสัมพันธ์ระว่างแม่กับลูกได้อย่างชัดเจน บอกเลยว่าภาพสวยมาก เหมือนดูอนิเมะภาพระบายสีทั้งเรื่อง ลายเส้นคมชัดให้อารมณ์เหมือนดูเรื่องครอบครัวยามาดะ ของค่าย Studio Ghibli ไม่มีผิดเลยจ้า
3.Invisible กำกับโดย อากิฮิโกะ ยามาชิตะ
เรื่องราวของชายคนหนึ่งผู้ซึ่งล่องหนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครในเมืองที่เขาอาศัยอยู่จะมองเห็นเขาได้เลย เขาได้แต่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ท่ามกลางความผันผวนของสังคม ที่ไม่เคยเห็นเขาในสายตา แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้กระทำการใหญ่บางอย่างที่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่มองเห็นเขาในสายตา นี่เป็นอนิเมชั่นที่แฝงนัยสะท้อนสังคมมนุษย์ได้ลึกแท้ที่สุด งานภาพเองก็ถูกนำเสนอท้องฟ้าที่มืดครึ้มอยู่ตลอดเวลา เป็นอนิเมชั่นที่นำเสนอชีวิตของชายหนุ่มผู้ที่เป็นพนักงาน ตื่นนอนไปทำงานวัน ๆ ไร้ซึ่งการมีตัวตนในเพื่อนฝูง แต่จะมีซักกี่คนที่จะมองเห็นเนื้อในของเขาจริง ๆ และนี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการฆ่าตัวตายก็เป็นได้ เมื่อเราที่มีชีวิตอยู่ไปด้วยไร้ซึ่งจุดหมายและเพื่อนฝูง หากเป็นเช่นนั้นชีวิตเรายังต้องดำเนินต่อไปเพื่อสิ่งใดอยู่อีก แต่แล้ววันหนึ่งชายหนุ่มได้กระทำการใหญ่ที่สุด คือการช่วยชีวิตเด็กทารกจากรถบรรทุกที่กำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง
คำถามที่ว่านั้น อาจไม่สำคัญเท่าการได้ทำสิ่งใดบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เอามาก ๆ สำหรับ 1 ชีวิต เมื่อนั้นแหละเราจะไม่ใช่มนุษย์ล่องหนอีกต่อไป เผลอ ๆ จะกลายเป็นเทพแก่ใครบางคนเลยด้วยซ้ำไป Invisible เป็นอนิเมชั่นที่มีลายเส้นถมึงทึง ดูหดหู่และเศร้าหมองบวกกับสภาพอากาศที่มีแต่ฝนตกแทบจะทั้งเรื่อง แต่กลับกันเมื่อท้องฟ้าโปร่ง อาทิตย์ทอแสงลงมาแหวกม่านหมอกของฟ้าที่มืดครึ้ม กลับกลายเป็นภาพฝันที่สวยงามอย่างบอกไม่ถูกเลยเชียว
เรื่องที่สามจะดูดาร์กสุดในบรรดาเรื่อง จะกล่าวถืงชายที่ไร้ตัวตน ไม่มีใครที่มองเห็นเค้า แต่เค้าเลือกที่จะเป็นคนดีได้ โดยเค้าได้ช่วยเหลือเด็กทารกให้รอดพ้นจากรถบรรทุกชน ถือแม้เค้าจะได้รับบาดเจ็บก็ได้ตาม แต่เค้าก็สุขใจที่ได้ทำ พอดูเรื่องเสร็จ อยากเป็นคนดีเลยจ้า โทนสีของเรื่องนี้ดีมาก สีเข้มดูเศร้าสุด ๆ แต่รวม ๆ แล้ว เรื่องนี้ต้องดูให้ได้เลยนะคะ เป็นยังไงบ้างกับบทความที่เราได้นำเสนอไปในวันนี้ ถึงแม้เรื่องฮีโร่เดินดินนี้ จะเป็นเรื่องสั้น ๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสาระที่ครบถ้วนไว้ในเรื่องเดียวจริง ๆ แนะนำให้ดูเลยค่า โดยทุกคนสามารถรับได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง TrueID ได้แล้ววันนี้ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน บายค่า Modest Heroes Trailer